จอมนางเคียงหทัย ดวงใจจักรพรรดิ
ชื่อเรื่อง : จอมนางเคียงหทัย ดวงใจจักรพรรดิ
ผู้แต่ง : ธารธารา
จอมนางเคียงหทัย ดวงใจจักรพรรดิแต่งโดย ธารธารา มีทั้งหมด 2 เล่มด้วยกันเนื้อเรื่องจะเป็นแนวสมัยจีนโบราณ เป็นเรื่องของนางเอกนามว่า เว่ยมี่อิง เป็นหญิงที่สวยงามเป็นหญิงสาวผู้รักอิสระและสันโดษ มีอายุจะ 17 ปีพอดีและเป็นธรรมเนียมที่แต่ละตระกูลที่มีบุตรสาวต้องส่งมางานคัดเลือกตัวสาวงามเพื่อเข้าวัง ไปเป็นสนมของจักรพรรดิในแคว้นเยว่ ซึ่งมี่อิงนั้นไม่ต้องการที่ไปคัดเลือกแต่ก็ต้องทำเพราะต้องรักษาเกียรติวงตระกูลที่เป็นแม่ทัพใหญ่ จึงวางแผนพยายามหลีกเลี่ยงด้วยการแกล้งป่วยไม่ไปงานคัดเลือก แต่จักรพรรดินามว่า หย่งจื้อฮ่องเต้ ได้ปูนบำเน็ดในบิดาของมี่อิง เว่ยจิ้นเหอ ที่ได้ทำศึกชนะแคว้นต้าเชี่ยและรวมเข้ากับแคว้นเยว่ได้สำเร็จจึงได้แต่งตั้งเป็น เซวียนอู๋กั๋วกง ซึ่งเป็นลำดับชั้นสูงสุดในการแต่งตั้ง และการรับมี่อิงเข้ามาเป็นสนมขั้นไฉเหริน และพระราชทานนามให้ใหม่ชื่อว่า ซูหนี่ว์ ซึ่งแปลว่าหญิงสาวที่เลอโฉม
แต่การรับเข้ามาเป็นสนมนั้นไม่ได้ทำเพราะความรักแต่อย่างใด เหตุผลหลักคือการดันตระกูลเว่ยซึ่งเป็นตระกูลของนางเอกให้อยู่ในจุดสูงสุดและตั้งน้องชายนางเอกเป็นรองแม่ทัพคือขุนนางขั้นสี่ เพื่อลองใจตระกูลว่าจะทำการกบฏโค่นอำนาจตนหรือไม่ หากคิดจะกบฏก็จะได้ทำการตัดไฟทิ้งโดยเปรียบกับสำนวนจีนที่ว่า ‘เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล’ เหล่าขุนนางเข้าใจข้อนี้ดี จึงไม่เกิดความอิจฉาใดๆ
- ผู้เขียนสื่อทำให้เห็นว่ามีการใช้อำนาจในการข่มขู่จากผู้ที่มีอำนาจสูงกว่าตามเนื้อเรื่องคือฮ่องเต้ สามารถกดขี่เราอย่างไรก็ได้ และเป็นการป้องกันตนเองจากการคิดก่อกบฏการที่ผลักครอบครัวนางเอกให้เด่นสื่อให้รู้ว่ามีความระแวงพอสมควร และความไว้วางใจของฮ่องเต้ไม่สามารถทำได้ตลอดแม้ว่าจะทำการรบเพื่อชัยชนะของแคว้น ก็ยังบีบบังคับไม่ให้คิดก่อกบฏ ถ้าเกิดกบฏขึ้นมาก็สามารถฆ่าทิ้งได้เช่นกัน แม้จะทำคุณต่อบ้านเมืองมาก็ตาม
ทางด้านนางเอกหรือมี่อิงหลังการเข้ามาเป็นสนมนั้น ไม่อยากไปแก่งแยกชิงดีกับเหล่าสนมด้วยกันจึงวางแผนทำให้ตัวเองเสียโฉมโดยความรู้จากการเป็นศิษย์ของหมอเทวดากลายเป็นที่ลือกันว่าอัปลักษณ์ ฮองเฮาให้หมอหลวงมารักษาก็ไม่สามารถทำให้หายได้ จึงมีคำสั่งยกเว้นการเข้าเฝ้าและต้องมีผ้าคลุมปกปิดใบหน้าไว้ตลอดเวลาออกมานอกตำหนัก ทำให้ตลอดหนึ่งปีนางถูกลืมอยู่ตำหนักท้ายหวังจนกระทั่งวันหนึ่งขณะที่นางกำลังเดินเล่นอยู่นั้นได้เปิดผ้าคลุมออกบังเอิญเจอกับ หย่งจื้อฮ่องเต้ ที่กำลังมีขบวนเสด็จผ่านทำให้ได้เห็นใบหน้าที่สวยงามจริงๆของมี่อิง หลังจากนั้นฮ่องเต้ ได้มีคำสั่งเสด็จเยือนตำหนักท้ายวังของมี่อิงเป็นครั้งแรกนับจากการเข้าวังมาทันทีที่เข้าเฝ้าฮ่องเต้เพียงคืนเดียวก็ได้เลื่อนลำดับสนมถึง 4 ขั้น แม้ว่าจะไม่มีการร่วมเตียงกันแต่ไม่มีผู้ใดรู้ ทำเอาเหล่าสนมทั้งหลายต่างพากันอิจฉาและมีการกลั่นแกล้ง ใส่ร้ายมากมาย เพราะคิดว่าฮ่องเต้หลงไหลในตัวนางเป็นอย่างมาก
เมื่อความจริงปรากฏว่านางไม่ได้อัปลักษณ์อย่างในตอนแรกที่หลอกไว้ ทำให้หลังจากนั้นข้อยกเว้นทั้งหมดก็ยกเลิกทำให้ต้องมาเข้าเฝ้าฮองเฮาตอนเช้าในทุกวัน ไม่ต้องสวมผ้าปิดบังใบหน้าเวลาไปไหนมาไหนนอกตำหนักอีกแล้ว แต่ก็ยังถูกกลั่นแกล้งจากสนมยศสูงกว่าอยู่ดี บางครั้งก็ต้องตกเป็นพะรับบาปในการใส่ร้ายการ แก่งแย่งชิงดีสารพัดแต่นางก็หาวิธีเอาตัวรอดด้วยท่าทางการแกล้งโง่งมของนางจึงรอดมาได้เสมอ แต่ก็เป็นอีกครั้งที่ถูกตราหน้าว่าสวยงามแต่โง่งมแต่ในขณะเดียวกันก็มีพระชายานามว่า ฮุ่ยหวงกุ้ยเฟย ซึ่งมีตำแหน่งเป็นพระมเหสีรองซึ่งมีอำนาจเป็นรองแค่ฮองเฮาและสนมอีก 2 คนที่ไม่เคยให้ความสนิทสนมกับผู้ใดแต่กลับชื่นชอบมี่อิงเพียงคนเดียวในวังหลวง
- จากสองบทความก่อนหน้านี้ การเลื่อนขั้นลำดับสนมมากขนาดนั้นเพื่อต้องการให้นางตกเป็นเป้าของการโจมตีจากแรงริษยาได้ง่ายและกดขี่โดยอ้อมให้นางรู้ว่าหลังจากนี้เขาจะทำอะไรกับเธอก็ได้ และสื่อให้เห็นถึงการแก่งแย่งกันของเหล่าสนมในวังที่ไม่ยอมให้ใครได้ดีกว่าตน
เนื่องจากตอนแรกมี่อิงได้รับการแต่งตั้งเข้ามาเนื่องจากความระแวงของฮ่องเต้ว่าตระกูลของนางจะทำการโค่นอำนาจ หลังจากเข้ามาอยู่วังจึงสั่งให้คนสนิทเฝ้าติดตามให้ดี แล้วนำมารายงานให้ฟังเป็นประจำไม่ว่าจะติดต่อกับใครแม้แต่คนในครอบครัว ทำให้รู้จักหลายมุมของนางเอก ทั้งยังกลั่นแกล้งด้วยการทำเป็นลุ่มหลงจนทำให้ถูกฮองเฮาและเหล่าสนมแกล้งว่าเสียดสีและลงโทษให้นั่งคุกเข่าสำนึกผิดอยู่บ่อยครั้ง
- จากที่บอกให้คนสนิทมารายงานตลอดนั้นทำให้เห็นว่าในฐานะฮ่องเต้ต้องมีความระมัดระวังตัวเองตลอดเวลา เนื่องจากมี่อิงได้เข้าวังมาในฐานะสนมยังต้องกลัวว่าจะคิดหาหนทางการปีนขึ้นไปสู้อำนาจที่ผู้หญิงในวังฝันถึง เนื่องจากอำนาจที่เขามอบให้บิดานางก็กลัวจะทำให้นางหลงไปอำนาจเหมือนกับสนม ชายาของตน
จนเมื่อได้รู้ว่ามี่อิงคือผู้หญิงที่กำลังตามหาอยู่ตั้งนาน จากเหตุการณ์ที่มีคนดักทำร้ายในป่าจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดก่อนที่มี่อิงจะเข้าวังมาเสียอีกและนางก็เป็นคนทำแผลจากการถูกมีดดาบฟันเป็นรอยยาวจนเกิดรอยแผลเป็นเพราะมี่อิงเย็บแผลไม่ได้เรื่องและการให้ตระกูลของมี่อิงพิสูจน์ตนเองว่าซื่อสัตย์จนฮ่องเต้ไว้ใจและหายแคลงใจในตัวบิดาและนาง จึงทำให้ฮ่องเต้เกิดหลงรักมี่อิงขึ้นมา
โดยพิสูจน์จากให้มี่อิงเย็บถุงหอมมาถวายทำให้แน่ใจว่าเป็นนางจากการเย็บที่แย่มากและให้นางมาฝึกยุทธ์ด้วยกันทำให้รู้ว่านางมีฝีมือจึงมั่นใจว่าเป็นนางแน่แล้วเพราะมีผู้หญิงไม่กี่คนที่สามารถต่อตู้กับฮ่องเต้อย่างเขาได้ ทั้งนางยังรู้เกี่ยวกับตำราพิชัยสงครามซึ่งเอาไว้ทำสงครามระหว่างเมืองซึ่งเป็นเรื่องของทางทหารและไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนที่สนใจตำรารบนี่ด้วย จึงเอ่ยปากถามและนางก็ตอบว่าเป็นนางจริงๆ ทำให้ฮ่องเต้ยิ่งรักนาง เนื่องจากตอนไปตั้งกองทัพได้พามี่อิงติดไปด้วยทำให้เหล่าทหารเคลือบแคลงใจกันนิดนึงที่เห็นผู้หญิงมาเดินรองค่ายกองทัพ จนได้มาร่วมวงฝึกต่อสู้ต่อหน้าทหารในกองทัพทำให้เหล่าทหารยินยอมที่จะรับฟังนางและชื่นชมนางอย่างลับๆอีกด้วย ทั้งยังมีตอนที่มี่อิงช่วยวางแผนในการจู่โจมฆ่าศึกด้วยวิธีที่ชาญฉลาด
- การที่หญิงจะช่วยฮ่องเต้จากการลอบทำร้าย นั่นแสดงว่าคนนั้นต้องมีวิทยายุทธ์ที่ดีพอสมควรที่สามารถช่วยได้ นั่นคือสิ่งที่ผู้แต่งวางตัวละครให้มีทักษะการต่อสู้ที่ดีไม่แพ้ผู้ชาย และวิธีพิสูจน์ของฮ่องเต้เพื่อทำให้แน่ใจว่าเป็นนางเอกจริงๆ ในตอนที่บอกว่าตำราพิชัยสงครามไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับผู้หญิง ผู้แต่งต้องการสื่อมาจากที่เราเคยได้ยินกันว่าในประวัติศาสตร์ผู้หญิงต้องมีความรู้เกี่ยวกับการเย็บปัก งานฝีมือที่ประณีตแต่สิ่งเหล่านั้นไม่ได้มีในตัวนางเอกเลย แต่มีความรู้ด้านตำราพิชัยสงคราม การวางแผนรบและการต่อสู้ซึ่งเป็นความประหลาดใจของเหล่าทหารที่ผู้หญิงมีความสามารถนอกเหนือจากที่เคยเห็นมา
ในตอนสุดท้ายจึงเป็นผลลัพธ์ของการวางแผนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นตัวไทเฮาที่ไม่ได้ชื่นชอบตัวหย่งจื้อฮ่องเต้อยู่แล้วเพราะโอรสของนางไม่ได้ขึ้นบัลลังก์ฮ่องเต้และวางแผนใช้อำนาจอย่างลับๆอยู่เสมอก็ได้และเป็นคนฆ่ามารดาที่เป็นพระชายาของฮ่องเต้องค์ก่อนทำให้หย่งจื้อฮ่องเต้ลงโทษหลังจากที่ไทเฮาและฮองเฮาที่เป็นหลานของไทเฮา ก่อกบฏโดยการส่งคนมาลอบฆ่าให้ได้รับโทษประหาร ตัดหัวเสียบประจานและปลดองค์รัชทายาทที่เกิดจากฮองเฮาเนรเทศไปชายแดนและไม่ให้ลูกหลานมารับราชการต่อไปหลายชั่วโคตร พระชายาที่ขัดขวางไม่ให้สนมคนใดตั้งครรภ์ได้คือเสียนเฟยเป็นบุตรของหัวหน้าหมอหลวงร่วมมือกับบิดาทำให้สนมที่ตั้งครรภ์ต้องแท้งไปทุกราย โดยปลดออกจากวังทั้งสองคนและละเว้นโทษประหารแลกกับการรักษาชาวบ้านโดยไม่คิดเงินเป็นเวลาสามชั่วอายุคน คดีต่างๆก็ได้ถูกสะสางจนหมดสิ้นไป
เรื่องนี้ทำให้ได้เห็นว่าในเรื่องการเป็นฮ่องเต้หรือจักรพรรดิต้องรับมือกับเหตุการณ์กบฏอยู่ตลอดเวลา ไม่สามารถวางใจใครได้อย่างสนิทใจและต้องเตรียมศึกสู้รบในการแย่งชิงพื้นที่หรือแคว้นตนเอง การช่วงชิงอำนาจที่ให้เห็นจากเหล่าภรรยาฮ่องเต้ และจากไทเฮาซึ่งมีศักดิ์เป็นแม่ ที่ไม่ลงรอยกันและคิดหักหลังอยู่เสมอ
การวางปมตัวละคร
ตัวฮ่องเต้เองก็เป็นตัวละครที่มีปมชีวิตมากเช่นกัน เพราะมารดาของหย่งจื้อฮ่องเต้นั้นถูกไทเฮาปัจจุบันฆ่าตายและฮ่องเต้องค์ก่อนจึงต้องมอบหย่งจื้อให้กับไทเฮาซึ่งเป็นตัวร้ายเลี้ยงดู และไม่เคยดูแลหย่งจื้ออีกเลยนับจากนั้น จนเมื่อโตส่งไปประจำอยู่ชายแดน ให้ทุกคนเห็นว่าเป็นองค์ชายที่ถูกละเลย หมดหนทางการขึ้นสู่บัลลังก์ฮ่องเต้ได้ และนั้นก็เป็นแผนของฮ่องเต้องค์ก่อนที่จะให้หย่งจื้ออยู่ให้ไกลกับศัตรูให้มาก แต่ก็ส่งอาจารย์ที่เก่งกาจในทางการเมือง ทางทหาร จนได้เป็นแม่ทัพใหญ่ทางทิศหลักของแคว้น และได้รวมกำลังเพื่อผลักดันให้หย่งจื้อเข้ามารับบัลลังค์ต่อจากพระองค์แทนที่จะเป็นองค์ชายจากไทเฮาซึ่งไทเฮานั้นมาจากตระกูลที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นทำให้ต้องอดทนและรอวันที่หย่งจื้อฮ่องเต้มาแก้แค้นแทนพระองค์จากการที่ฆ่าชายาที่เป็นที่รักซึ่งเป็นมารดาของหย่งจื้อฮ่องเต้ปัจจุบันตามเนื้อเรื่อง โดยเป็นการวางแผนล่วงหน้าและเตรียมการณ์เป็นอย่างดีแม้จะต้องรอเป็นเวลานานแต่ก็ทำให้สามารถกำจัดออกไปจนหมดได้
ตัวละครอีกตัวหนึ่งคือ ฮุ่ยหวงกุ้ยเฟย ชื่อเดิมคือ ไป๋เพ่ยฟาง เป็นตัวละครที่มีปมปัญหาเหมือนกันจึงต้องมาอยู่ในวังวนวังหลวง เข้ามาในฐานะหวงกุ้ยเฟย ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงรองจากฮองเฮาเท่านั้น แต่ในความป็นจริงนางจกหย่งจื้อเป็นเพียงพี่น้องเท่านั้นไม่เคยมีอะไรเกินเลยกันมาตลอด แต่เหตุการณ์ที่นางเข้าวังมาคือเหตุการณ์ที่ชายคนรักของนางต้องไปนำทัพรบกับข้าศึกต่างแคว้นโดยคำสั่งของบิดารองแม่ทัพหลี่หยางกวง ซึ่งเห็นว่ากองทัพแคว้นตนเสียเปรียบจึงไม่ยอมส่งลูกชายไปจึงส่งคนรักของนางซึ่งเป็นลูกชายบุญธรรมไปแทน ทำให้คนรักของนางเสียชีวิตในสนามรบ นางจึงตัดสินใจเข้ามาคานอำนาจของไทเฮากับฮองเฮาเพื่อขัดขว้างการกระทำต่างๆ โดยที่นางเป็นคนฉลาดทำให้รู้ทันแผนการและหลีกเลี่ยงได้โดยมีหย่งจื้อฮ่องเต้หนุนอยู่
การวางแผนในเรื่อง
1 ในตอนแรกเริ่มนางเอกโดนข่มขู่จากภรรยาเอกของบิดาจะเอาสมบัติของแม่นางเอก แต่นางเอกได้รู้ทันแผนการนั้นก็เลยขนย้ายสมบัติไปให้ยายจนหมด ทำให้ภรรยาเอกไม่ได้อะไรกลับไป
2 หลังจากเข้าวังเนื่องจากไม่อยากถูกถวายตัวจึงแกล้งด้วยการทำให้หน้าตัวเองอัปลักษณ์จึงไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเฝ้าฮ่องเต้ถึงหนึ่งปีเต็ม
3 หลังจากได้เข้าเฝ้าฮ่องเต้หนึ่งวันแล้วได้เลื่อนไปถึงสี่ขั้น ทำให้เหล่าสนมอิจฉาจึงถูกใส่ความจากเหตุการณ์เรื่องยันต์สาปแช่งฮองเฮาที่ตัวร้ายได้นำมาไว้ในตำหนักของมี่อิงทำให้ฮองเฮาป่วยหนัก เพื่อหวังจะใส่ความและสาวมาถึงตัวมี่อิงได้ที่ แต่นางและคนสนิทรู้ทันแผนการเลยนำยันต์ไปไว้ในตำหนักของตัวละครอีกตัวนึงที่เป็นองค์หญิงจากต่างแคว้นมาเพื่อสั่นคลอนแคว้นเยว่เพื่อจะทำการสู้รบ นางเอกจึงรอดและองค์หญิงต่างแคว้นก็ถูกส่งกลับแคว้นเดิม
4 ฮ่องเต้องค์ก่อนเขียนราชองค์การไว้ก่อนตายคือฆ่าไทเฮาทิ้งและไม่อนุญาตให้ฝังศพในสุสานหลวงแต่ได้นำร่างมารดาของหย่งจื้อฮ่องเต้ไปฝังในสุสานหลวงโดยที่ไทเฮาไม่รู้และมีคำสั่งให้ฝังร่างตนไว้ข้างกันตอนตาย
การวางแผนเกี่ยวกับการทำศึกการออกรบ
1 หย่งจื้อฮ่องเต้รู้ว่าแคว้นอื่นได้รวมตัวกันเพื่อมาตีแคว้นตนจึงทำอุบายหลอกล่อส่งแม่ทัพต่างๆให้ไปที่อื่น แต่จริงๆแล้วให้คอยเฝ้าระวังอยู่และทำกับดักไว้ในที่ต่างๆ
หลักคือในตอนนั้นเป็นหน้าหนาวทำให้แม่น้ำเป็นน้ำแข็งจึงสั่งให้ทหารไปเจาะรูไว้ พอข้าศึกยกทัพมาทำให้น้ำแข็งในแม่น้ำแตกข้าศึกจึงตกลงน้ำไป ทำให้ลดกำลังพลศัตรูได้โดยไม่ต้องเสียกำลังฝั่งตัวเอง
การวางแผนการแย่งชิงอำนาจในวังหลวง
1 พระชายาลำดับสี่เสียนเฟย เป็นลูกสาวของหัวหน้าหมอหลวงในวัง ได้ร่วมมือกับบิดาตนเองขัดขว้างการตั้งครรถ์ของเหล่าสนม หากใครท้องก็ทำให้แท้งเพราะถ้าใครให้กำเนิดบุตรชายขึ้นมาจะทำให้ลูกของนางไม่ได้บัลลังก์ฮ่องเต้และนางจะไม่ได้ขึ้นไปมีอำนาจได้อย่างที่หวัง
2 เนื่องจากมี่อิงได้รับความสนใจจากฮ่องเต้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน พระชายาลำดับที่ 1 และสนมนางหนึ่งซึ่งเป็นน้องสาวนางจึงวางแผนวางพิษในแก้วน้ำชา โดยใช้นางกำนัลซึ่งเป็นคนของนางมาก่อน แต่มี่อิงก็ต้องการเล่นงานกลับอยู่แล้ว นางเป็นศิษย์ของหมอเทวดาที่เก่งมากในแคว้นจึงรู้วิธีแก้พิษแต่ก็ดื่มไปเพราะต้องการให้ฮ่องเต้สืบสวนด้วยตัวเอง พระชายาและสนมจึงถูกลดลำดับไปเป็นสนมขั้นหนึ่งคือต่ำสุดและสนมไปเป็นนางกำนัล
3 ฮ่องเต้ต้องไปตั้งทัพเพื่อทำศึกระหว่างแคว้น ไทเฮาและฮองเฮาคิดว่าไม่มีทางที่จะทำให้องค์รัชทายาทที่มากจากฮองเฮาขึ้นบัลลังก์ได้จากการที่ฮ่องเต้เอนไปทางมี่อิงนั้นเอง ทำให้คิดก่อกบฏด้วยการส่งนักฆ่าไปลอบฆ่าที่ค่าย เพื่อหวังจะแต่งตั้งรัชทายาทขึ้นเป็นฮ่องเต้
แต่ฮ่องเต้รู้ทันจึงให้ทหารเฝ้าไว้ลอบๆพอคนร้ายลงมือจะฆ่าก็ออกมาช่วยไว้ได้ แต่แกล้งส่งข่าวกลับวังว่าตนสิ้นชีวิตไปแล้วไทเฮาและฮองเฮาได้ใจจึงรีบแต่งตั้งรัชทายาทขึ้นแล้วหย่งจื้อฮ่องเต้ก็กลับวังมาเพื่อสะสางคดีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันไทเฮาจึงสิ้นชีวิตและให้นำศพไปให้แร้งกินห้ามฝังตามราชโองการของฮ่องเต้องค์ก่อนที่เขียนไว้ และปลดฮองเฮาและรัชทายาทรวมถึงคนในตระกูลฮองเฮาทุกคนไม่ให้มีคนรับราชการได้อีก
อ้างอิง
ธารธารา. (2560) .จอมนางเคียงหทัย ดวงใจจักรพรรดิ . กรุงเทพฯ : บริษัทพิมพ์ดี จำกัด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น